๖๔๔    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๖๔๕
ในความเกิด,    อธิบายว่า    พยายาม,   อวิชชาให้สังขารเป็นไป   ชื่อว่า
พัวพันในความเป็นไป.   อธิบายว่า   ผูกพัน   ฉะนั้น   ท่านจึงกล่าวว่า
สญฺโคฏฺ€ิติ - เป็นเหตุประกอบไว้  ปลิโพธฏฺ€ิต - เป็นเหตุพัวพัน
อธิบายว่า  เป็นเหตุประกอบ   เป็นเหตุกังวล.
           เพราะอวิชชาให้สังขารเกิด    ชื่อว่า    สมุทัย    เพราะอรรถว่า
เป็นมูลเหตุแห่งความเกิดและความเป็นไป,   ชื่อว่า   สมุทย€ิติ   เพราะ
เป็นเหตุให้เกิด   อธิบายว่า      เป็นมูลเหตุ.      อวิชชาแลท่านกล่าวว่า
เหตฏฺ€ิติ - เป็นเหตุเดิม, ปจฺจยฏฺ€ิติ - เป็นเหตุอาศัยเป็นไป  เพราะเป็น
เหตุเกิดในความเกิดของสังขาร,   เพราะเป็นปัจจัยอุปถัมภ์ในความเป็น
ไป   อธิบายว่า  €ิติ  เป็นเหตุเดิม,  €ิติ เป็นเหตุอาศัยเป็นไป   ท่านกล่าว
ชนกปัจจัยเป็นเหตุ,  อุปถัมภกปัจจัยเป็นเครื่องอาศัย.   แม้ในบทที่เหลือ
ก็พึงประกอบอย่างนี้.
          ในบทนี้ว่า   ภโว  ชาติยา  ชาติ  ชรามรณสฺส -  ภพเป็นปัจจัย
แก่ชาติ.   ชาติเป็นปัจจัยแก่ชรามรณะ    ท่านกล่าวถึงบทที่ประกอบด้วย
สามารถความเกิดว่า   อุปฺปาทฏฺ€ิติ   สญฺโคฏฺ€ิติ   เหตฏฺ€ิติ   โดย
ปริยาย  ด้วยอำนาจแห่งขันธ์ทั้งหลายมีชาติชราและมรณะ..   แต่อาจารย์
บางพวกพรรณนาความในบทนี้   โดยนัยมีอาทิอย่างนี้ว่า  อุปฺปาทาย  €ิติ
อุปฺปาทฏฺ€ิติ - เหตุแห่งความเกิด   ชื่อว่า  อุปปาทัฏ€ิติ - เป็นเหตุเกิด.
บทว่า   อวิชฺชา   ปจฺจโย -  อวิชชาเป็นปัจจัย  ท่านกล่าวเพ่งความที่
อวิชชาเป็นปัจจัยแห่งสังขารทั้งหลาย.
           อีกอย่างหนึ่ง เพื่อแสดงการกำหนดอวิชชานั้นเป็นปัจจัย  เพราะ
ความที่แม้อวิชชาก็เกิดเพราะปัจจัยท่านจึงกล่าวว่า  อุโภเปเต     ธมฺมา
ปจฺจยสมุปฺปนฺนาติ   ปจฺจยปริคฺคเห   ปญฺา - ปัญญาในการกำหนด
ปัจจัยว่า    ธรรมแม้ทั้งสองอย่างนี้ก็เกิดขึ้นแต่ปัจจัย.    แม้ในบทที่เหลือ
ก็พึงประกอบอย่างนี้.  ส่วนบทว่า   ชาติ  ปจฺจโย,  ชรามรณํ  ปจฺจย-
สมุปฺปนฺนํ - ชาติเป็นปัจจัย,  ชราและมรณะต่างก็เกิดขึ้นแต่ปัจจัย ท่าน
กล่าวไว้โดยปริยาย.   บทว่า   อตีตมฺปิ   อทฺธานํ  ได้แก่   กาลที่ล่วงไป
แล้ว.    บทว่า   อนาคตมฺปิ   อทฺธานํ   ได้แก่   กาลที่ยังไม่มาถึง.    แม้
ในบททั้งสองก็เป็น  ทุติยาวิภัตติ       ลงในอรรถแห่งอัจจันตสังโยคะ
คือใช้อายตนิบาตว่า  สิ้น.
            ๙๕ - ๙๗]  บัดนี้   พระสารีบุตรละอาการ ๙ เหล่านั้น    ใน
ลำดับวาระแห่งอาการ  ๙  แล้วประกอบด้วยบทแห่งปัจจัยอาศัยเหตุ แล้ว
ชี้แจงวาระ  ๓ มีอาทิว่า อวิชฺชา   เหตุ,  สงฺขารา   เหตุสมุปฺปนฺนํ-
อวิชชาเป็นเหตุ  สังขารทั้งหลายอาศัยเหตุเกิดขึ้น  ในวาระแห่งอาการ ๙
ท่านกล่าวปัจจัยด้วยสามารถเป็นชนกอุปถัมภกปัจจัย - ปัจจัยอุดหนุนให้
เกิด,  ในที่นี้   บทว่า   เหตุ  ได้แก่   ความเป็นชนกปัจจัย   เพราะเหตุ
วาระและปัจจัยวาระมาต่างหากกัน.   บทว่า  ปจฺจโย  พึงทราบความเป็น
อุปถัมภกปัจจัย   เพราะปัจจัยมีอวิชชาเป็นต้นแม้อย่างหนึ่ง  ๆ   ก็เกิดโดย
ประการทั้งสอง.