๖๔๘    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๖๔๙
          บทว่า  อุปคมนํ อุปาทานํ - ความเข้าถึงเป็นอุปาทาน.  ความว่า
การเข้าถึง    คือ    ความถือมั่นอันเป็นปัจจัยแห่งกรรมภพเป็นไปแล้วว่า
เมื่อทำกรรมนี้จักสำเร็จความประสงค์     ดังนี้ก็ดี   เราทำกรรมนี้แล้ว
จักได้เสวยกรรมในฐานะโน้น   ดังนี้ก็ดี  อัตตาคือตัวตนขาดสูญ ขาดสูญ.-
ด้วยดีแล้วก็ดี  มีความสุขปราศจากความเดือดร้อนก็ดี  บำเพ็ญศีลพรตได้
โดยสะดวกก็ดี   นี้ชื่อว่า  อุปาทาน.
           บทว่า   เจตนา   ภโว - เจตนาเป็นภพ   ได้แก่  เจตนา ดังกล่าว
แล้ว   ในที่สุดแห่งการประมวลมา   ชื่อว่า   ภพ.
          บทว่า  ปุริมกมฺมภวสฺมึ - ในกรรมภพก่อน   ได้แก่   เมื่อทำ
กรรมภพไว้ในอดีตชาติธรรมเหล่านี้เป็นไปแล้ว. บทว่า อิธ  ปฏิสนฺธิยา
ปจฺจยา - ธรรมเหล่านี้เป็นปัจจัยแห่งปฏิสนธิในภพนี้    ได้แก่    เป็น
ปัจจัยแห่งปฏิสนธิในปัจจุบัน.
         บทว่า  อิธ  ปฏิสนฺธิ  วิญฺาณํ - ปฏิสนธิเป็นวิญญาณในภพนี้
ได้แก่   วิญญาณ   ที่ท่านกล่าวว่า   เป็น  ปฏิสนธิ    เพราะภพปัจจุบัน
เกิดด้วยสามารถแห่งการสืบต่อกันในระหว่างภพนั้น  ชื่อว่า  วิญญาณ.
          บทว่า  โอกฺกนฺติ   นามรูปํ - ความก้าวลงเป็นนามรูป  ได้แก่
ความก้าวลงในครรภ์แห่ง   รูปธรรม  และ  อรูปธรรม   ดุจมาแล้วเข้าไป
นี้ชื่อว่า  นามรูป.
           บทว่า   ปสาโท   อายตนํ - ประสาทคือความผ่องใส     เป็น
อายตนะ    ได้แก่    ความที่รูปผ่องใส    นี้เป็นอายตนะ.    ท่านทำเป็น
เอกวจนะโดยถือเอาชาติ.    ด้วยบทนี้   ท่านกล่าวถึงอายตนะ  ๕  มีจักขุ
เป็นต้น.     พึงทราบว่า     แม้มนายตนะเท่านี้ก็กล่าวด้วยคำว่า   ปสาทะ
เพราะมนายตนะเป็นวิบากในที่นี้โดยพระบาลีว่า  ปภสฺสรมิทํ  ภิกฺขเว
จิตฺตํ, ตญฺจ  โข  อาคนฺคุเกหิ อุปกิเลเสหิ  อุปกฺกิลิฏฺ€ํ - ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลายจิตนี้ประภัสสร,  ก็จิตนั้นแลเศร้าหมองด้วยอุปกิเลส
ที่จรมา  ดังนี้  ในพระบาลีนี้  ท่านประสงค์เอาภวังคจิต,   และเพราะจิตนั้น
ผ่องใสด้วยความไม่มีสิ่งปฏิกูลด้วยกิเลส,
          บทว่า   ผุฏฺโฐ  ผสฺโส - ส่วนที่ถูกต้องเป็นผัสสะ  ได้แก่   ส่วน
ที่ถูกต้องกระทบ   เกิดอารมณ์   นี้ชื่อว่า  ผัสสะ.
             บทว่า    เวทยิตํ   เวทนา - การเสวยอารมณ์เป็นเวทนา   ได้แก่
การเสวยวิบากเกิดร่วมกับผัสสะ ด้วยปฏิสนธิวิญญาณก็ดี ด้วยสฬายตนะ
เป็นปัจจัยก็ดี   นี้ชื่อว่า   เวทนา.
         บทว่า  อิธุปปตฺติภวสฺมึ   ปุเรกตสฺส  กมฺมสฺส  ปจฺจยา - ธรรม
๕  ประการในกรรมภพก่อน     เป็นปัจจัยแก่ปฏิสนธิในอุปปัตติภพนี้
ความว่า     ธรรมทั้งหลายย่อมเป็นไปด้วยปัจจัยแห่งกรรมที่ทำไว้ในอดีต
ชาติ  อันเป็นวิบากภพในปัจจุบัน.
๑. องฺ. เอกก. ๒๐/๕๐.