| บทว่า ปสาโท อายตนํ - ประสาทคือความผ่องใส เป็น |
| อายตนะ ได้แก่ ความที่รูปผ่องใส นี้เป็นอายตนะ. ท่านทำเป็น |
| เอกวจนะโดยถือเอาชาติ. ด้วยบทนี้ ท่านกล่าวถึงอายตนะ ๕ มีจักขุ |
| เป็นต้น. พึงทราบว่า แม้มนายตนะเท่านี้ก็กล่าวด้วยคำว่า ปสาทะ |
| เพราะมนายตนะเป็นวิบากในที่นี้โดยพระบาลีว่า ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว |
| จิตฺตํ, ตญฺจ โข อาคนฺคุเกหิ อุปกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺํ๑ - ดูก่อน |
| ภิกษุทั้งหลายจิตนี้ประภัสสร, ก็จิตนั้นแลเศร้าหมองด้วยอุปกิเลส |
| ที่จรมา ดังนี้ ในพระบาลีนี้ ท่านประสงค์เอาภวังคจิต, และเพราะจิตนั้น |
| ผ่องใสด้วยความไม่มีสิ่งปฏิกูลด้วยกิเลส, |
| บทว่า ผุฏฺโฐ ผสฺโส - ส่วนที่ถูกต้องเป็นผัสสะ ได้แก่ ส่วน |
| ที่ถูกต้องกระทบ เกิดอารมณ์ นี้ชื่อว่า ผัสสะ. |
| บทว่า เวทยิตํ เวทนา - การเสวยอารมณ์เป็นเวทนา ได้แก่ |
| การเสวยวิบากเกิดร่วมกับผัสสะ ด้วยปฏิสนธิวิญญาณก็ดี ด้วยสฬายตนะ |
| เป็นปัจจัยก็ดี นี้ชื่อว่า เวทนา. |
| บทว่า อิธุปปตฺติภวสฺมึ ปุเรกตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยา - ธรรม |
| ๕ ประการในกรรมภพก่อน เป็นปัจจัยแก่ปฏิสนธิในอุปปัตติภพนี้ |
| ความว่า ธรรมทั้งหลายย่อมเป็นไปด้วยปัจจัยแห่งกรรมที่ทำไว้ในอดีต |
| ชาติ อันเป็นวิบากภพในปัจจุบัน. |
|