๖๕๐    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๖๕๑
          บทว่า  อิธ  ปริปกฺกตฺตา อายตนานํ - เพราะอายตนะทั้งหลาย
ในภพนี้แก่รอบ  ท่านแสดงโมหะเป็นต้นในการทำกรรมของผู้มีอายตนะ
แก่รอบ.
          บทว่า  อายตึ  ปฏิสนฺธิยา  คือเป็นปัจจัยแก่ปฏิสนธิในอนาคต.
บทมีอาทิว่า    อายตึ     ปฏิสนฺธิ   วิญฺณาณํ - ปฏิสนธิในอนาคตเป็น
วิญญาณ   มีอรรถดังได้กล่าวแล้ว.   ท่านถือเอาอาการ  ๒๐ เหล่านี้  ด้วย
องค์แห่งปฏิจจสมุปบาท ๑๒      เป็นอย่างไร ?   ท่านกล่าวธรรมทั้ง ๒
เหล่านี้    โดยสรุปว่า    อวิชฺชา    สงฺขารา   ดังนี้    ว่าเป็นเหตุในอดีต.
ก็เพราะไม่รู้แจ้ง    จึงสะดุ้ง,   สะดุ้งแล้วย่อมถือมั่น,    เพราะการถือมั่น
ของบุคคลนั้นเป็นปัจจัย   จึงมีภพ,  ฉะนั้น  จึงเป็นอันท่านถือเอาแม่
ตัณหาอุปาทานและภพ   ด้วยการถือเอาธรรมทั้งสอง   คือ  อวิชชาและ
สังขารเหล่านั้นด้วย.    ท่านกล่าวถึงวิญญาณ     นามรูป    สฬายตนะ
ผัสสะและเวทนา  ในปัจจุบันโดยสรุป.   ท่านกล่าวตัณหา  อุปาทานและ
ภพ    ว่าเป็นเหตุในปัจจุบัน    โดยสรุป     ก็เมื่อถือเอาภพแล้วก็เป็นอัน
ถือเอาสังขารทั้งหลาย   อันเป็นส่วนเบื้องต้นของภพนั้นหรือสัมปยุตด้วย
ภพนั้น.   อนึ่ง   สังขารทั้งหลายสัมปยุตด้วยภพนั้น   ด้วยการถือตัณหา
และอุปาทาน.    อีกอย่างหนึ่ง    ท่านถือเอา   ตัณหา    ที่คนลุ่มหลงทำ
กรรมว่า    เป็น  อวิชชา.    ท่านกล่าวธรรมทั้ง ๒ ว่า  ชาติชรามรณะ
ในอนาคตโดยสรุป,   ก็ด้วยการถือเอาชาติชรามรณะนั่นแล   จึงเป็นอัน
ท่านถือผลในอนาคต ๕  มีวิญญาณเป็นต้นนั่นเอง.  เป็นอันท่านถือเอา
อาการ  ๒๐ ด้วยองค์   ๑๒   แห่งปฏิจจสมุปบาทเหล่านั้น    ด้วยบทว่า
ชาติชรามรณานิ  ด้วยประการฉะนี้
                    อตีเต  เหตุโย  ปญฺจ   อิทานิ  ผลปญฺจกํ
                    อิทานิ  เหตุโย  ปญฺจ   อายตึ   ผลปญฺจกํ.
                         อาการ  ๒๐   แห่งปัจจยาการ    คือ    ธรรม
             เป็นอดีตเหตุ ๕  อย่าง  ธรรมเป็นปัจจุบันผล  ๕  อย่าง
             ธรรมเป็นปัจจุบันเหตุ  ๕   อย่าง   ธรรมเป็นอนาคต
             ผล  ๕  อย่าง.
ท่านกล่าวความแห่งคาถานั้นไว้แล้ว,  บทว่า   อิติเม   แยกบทเป็น  อิติ
เม.   ปาฐะว่า  อิติ  อิเม.
              บทว่า   จตุสงฺเขเป - มีสังเขป ๔   ได้แก่    มีกอง ๔.  ธรรม
เป็นเหตุ ๕ อย่าง   ในอดีต   เรียกว่า    เหตุสังเขป   อย่างหนึ่ง.  ธรรม
เป็นผล ๕ อย่าง   ในปัจจุบันเรียกว่า  ผลสังเขป   อย่างหนึ่ง.  ธรรม
เป็นเหตุ ๕  อย่าง     ในปัจจุบัน     เรียกว่า     เหตุสังเขป  อย่างหนึ่ง.
ธรรมเป็นผล ๕ อย่าง   ในอนาคต   เรียกว่า   ผลสังเขป   อย่างหนึ่ง.
             บทว่า   ตโย   อทฺเธ  ได้แก่  ในกาล  ๓.    อดีตกาล   พึงทราบ
ด้วยสามารถปัญจกะ   คือ   ธรรมหมวด ๕  ที่  ๑,  ปัจจุบันกาลพึงทราบ
ด้วยสามารปัญจกะที่ ๒ ที่ ๓, อนาคตกาลพึงทราบด้วยสามารถปัญจกะ
ที่   ๔,
๑. ธรรมหมวด ๕ นี้ คือวิชชา สังขาร ตัณหา อุปาทาน กรรมภพ.