๖๕๒    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๖๕๓
          บทว่า    ติสนฺธึ - สนธิ  ๓   ชื่อว่า  ติสันธิ   เพราะอรรถว่ามี
ปฏิสนธิ ๓,  ซึ่งปฏิสนธิ ๓ นั้น   อธิบายว่า  เหตุผลสนธิ  อย่างหนึ่ง
มีในระหว่างแห่ง  เหตุอดีต  และ ผลปัจจุบัน,  ผลเทตุสนธิ   อย่าง
หนึ่งมีในระหว่างแห่ง   ผลปัจจุบัน  และ  เหตุอนาคต,   เหตุผลสนธิ
อย่างหนึ่งมีในระหว่างแห่ง   เหตุปัจจุบัน  และ ผลอนาคต.
           แต่ด้วยสามารถมาแล้วโดยสรุปใน   ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาลิ  มีดัง
นี้  อวิชชา  สังขารา  เป็นสังเขปที่ ๑.  วิญญาณ  นามรูป สฬายตนะ
ผัสส และ เวทนา  เป็นสังเขปที่  ๒  ตัณหา  อุปาทาน ภพ เป็นสังเขป
ที่ ๓, ชาติ  ชรามรณะ  เป็นสังเขปที่  ๔.  องค์ ๒ คือ อวิชชา และ สังขาร
เป็น  อดีตกาล,  ธรรม ๘ มี  วิญญาณ  เป็นต้น  มีภพเป็นที่สุด เป็น
ปัจจุบันกาล,  องค์ ๒  คือ  ชาติ และ  ชรามรณะ  เป็น  อนาคตกาล,
เหตุผลสนธิ  อย่างหนึ่งมีในระหว่างแห่ง สังขาร และ  วิญญาณ,  ผล
เหตุสนธิ   อย่างหนึ่งมีในระหว่างแห่งเวทนาและตัณหา,   เหตุผลสนธิ
อย่างหนึ่งมีในระหว่างแห่งภพและชาติ.
         บทว่า  วีสติยา อากาเรหิ - อาการ ๒๐ ได้แก่   โดยส่วน ๒๐.
พึงเชื่อมความว่า  พระโยคาวจรย่อมรู้ปฏิจจสมุปบาท  มีสังเขป ๔ กาล ๓
สนธิ ๓  ด้วยอาการ  ๒๐ ดังนี้.
              บทว่า   ชานาติ  ได้แก่  ย่อมรู้ด้วยญาณ  คือ  การเริ่มเวทนาโดย
ทำนองเดียวกับสุตะ - การฟัง.
              บทว่า   ปสฺสติ   ได้แก่    ย่อมเห็นสิ่งที่รู้แล้วด้วยญาณดุจเห็น
ด้วยตา   และทำให้ถูกต้องแล้วดุจมะขามป้อมบนฝ่ามือ.
              บทว่า   อญฺาติ - ย่อมรู้ทั่ว    ได้แก่    ทำอาเสวนะโดยอาการที่
เห็นแล้ว   ชื่อว่า   ย่อมรู้ด้วยญาณ.   ความแห่งศัพท์ว่า  มริยาทะ  ในที่นี้
คือ อาการ.
              บทว่า   ปฏิวิชฺฌติ - ย่อมแทงตลอด   ได้แก่   ให้ถึงความสำเร็จ
ด้วยการบำเพ็ญภาวนา    ชื่อว่า    ทำการแทงตลอดด้วยญาณ.     อีกอย่าง
หนึ่งย่อมรู้   ด้วยสามารถแห่งลักษณะ,     ย่อมเห็น   ด้วยสามารถเป็นไป
กับด้วยกิจ,   ย่อมรู้ทั่ว  ด้วยสามารถแห่งอาการปรากฏ,    ย่อมแทงตลอด
ด้วยสามารถแห่งปทัฏฐาน
              ในบทเหล่านั้น   บทว่า  ปฏิจฺจสมุปฺปาโท  พึงทราบว่า ได้แก่  ธรรมเป็นปัจจัย
ธรรมเป็นปัจจัย.
              บทว่า   ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา    ธมฺมา   ได้แก่   ธรรมอันเกิดขึ้น
ด้วยปัจจัยนั้น ๆ.    หากถามว่า    รู้ได้อย่างไร ?   แก้ว่า   ด้วยพระพุทธ-
พจน์.   เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในเทศนาสูตรที่บัณฑิตกำหนด
ด้วยปฏิจจสมุปปาทะและปฏิจจสมุปปันนธรรมว่า