๖๖๐    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๖๖๑
เป็นปัจจัย   จึงมีภพ   เมื่ออุปาทานไม่มี   ภพก็ไม่มี  เพราะตัณหาเป็น
ปัจจัย   จึงมีอุปาทาน   เมื่อตัณหาไม่มี    อุปาทานก็ไม่มี   เพราะเวทนา
เป็นปัจจัย   จึงมีตัณหา   เมื่อเวทนาไม่มี   ตัณหาก็ไม่มี   เพราะผัสสะ
เป็นปัจจัย   จึงมีเวทนา  เมื่อผัสสะไม่มี   เวทนาก็ไม่มี   เพราะสฬายตนะ
เป็นปัจจัย   จึงมีผัสสะ   เมื่อสฬายตนะไม่มี   ผัสสะก็ไม่มี   เพราะนาม
รูปเป็นปัจจัย    จึงมีสฬายตนะ    เมื่อนามรูปไม่มี   สฬายตนะก็ไม่มี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย  จึงมีนามรูป  เมื่อวิญญาณไม่มี  นามรูปก็ไม่มี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย   จึงมีวิญญาณ   เมื่อสังขารไม่มี   วิญญาณก็ไม่มี
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย    จึงมีสังขาร    เมื่ออวิชชาไม่มี    สังขารก็ไม่มี
เป็นสัมมสนญาณ  ปัญญาในการย่อแล้วกำหนดว่า  ในอดีตกาลก็ดี  ใน
อนาคตกาลก็ดี   เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย   จึงมีสังขาร    เมื่ออวิชชาไม่มี
สังขารก็ไม่มี  เป็นสัมมสนญาณ.
           ชื่อว่าญาณ    เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น    ชื่อว่าปัญญา   เพราะ
อรรถว่ารู้ชัด      เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า     ปัญญาในการย่อธรรม
ทั้งที่เป็นอดีต    อนาคตและปัจจุบันแล้วกำหนด   เป็นสัมมสนญาณ.
อรรถกถาสัมมสนญาณนิทเทส
              ๙๙]   พึงทราบวินิจฉัย   ในสัมมสนญาณนิทเทส    ดังต่อไปนี้
บทว่า  ยงฺกิญฺจิ   คือ   กำหนดถือเอาไม่มีเหลือ.  บทว่า   รูปํ   ได้แก่
กำหนดโดยความประสงค์ยิ่ง.       เป็นอันท่านทำความกำหนดไม่มีเหลือ
แห่งรูป    แม้ด้วยบททั้งสองอย่างนี้.    เมื่อเป็นเช่นนั้น    พระโยคาวจร
ย่อมปรารภการจำแนกด้วยบทมีอาทิว่า    อดีต    แห่งรูปนั้น.    รูปนั้น
บางรูปเป็นอดีต    บางรูปมีประเภทเป็นอนาคตเป็นต้น.     แม้ในเวทนา
เป็นต้นก็มีนัยนี้.   รูป  ในบทนั้น  ชื่อว่า  เป็นอดีต ๔ อย่างด้วยสามารถ
แห่ง  กาล  การสืบต่อ   สมัย   และ     ขณะ,     รูปอนาคตปัจจุบัน
ก็อย่างนั้น.
          ในรูปเหล่านั้นพึงทราบด้วยสามารถ  กาล   ก่อน   ได้แก่   รูป
ในอดีตก่อนจากปฏิสนธิ  ในภพหนึ่งของรูปหนึ่ง,   รูปอนาคต   เหนือ
จากจุติ,   รูปปัจจุบัน   ในระหว่าง   รูปอดีต   และ   อนาคต  ทั้งสอง.
          พึงทราบรูปด้วยสามารถ  สันตติ  ได้แก่  รูปปัจจุบันแม้เป็นไปอยู่
ได้  ด้วยการสืบต่อกันมาก่อนมีสมุฏฐานจากอุตุอย่างเดียวกัน   เป็นสภาคะ-
กันและมีสมุฏฐานจากอาหารอย่างเดียวกัน.   รูปอดีต    มีสมุฏฐานจาก
อุตุ และ อาหาร  ไม่เป็นสภาคะกันก่อนจากนั้น,   รูปอนาคต   มีในภาย
หลัง.  รูปปัจจุบัน  มีสมุฏฐานจากวิถีจิตดวงเดียวกัน  ชวนจิตดวงเดียวกัน
และสมาบัติอย่างเดียวกันอันเกิดแต่จิต,   รูปอดีต   ก่อนจากนั้น,    รูป
อนาคต   มีในภายหลัง.   ประเภทแห่งรูปมีรูปอดีตเป็นต้น    ย่อมไม่มี
ด้วยสามารถสันตติ  เฉพาะอย่างแห่งกรรมสมุฏฐาน.  พึงทราบความที่รูป