๖๙๒    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๖๙๓
กำหนดทุกขสัจ    ด้วยการเห็นความเกิดและความเสื่อมโดยขณะ    ด้วย
อุทยัพพยานุปัสนาญาณ,   การกำหนดสมุทยสัจ    ด้วยการเห็นความเกิด
โดยปัจจัย,    การกำหนดนิโรธสัจ  ด้วยการเห็นความเสื่อมโดยปัจจัย,
การเห็นความเกิดและความเสื่อมของพระโยคาวจรผู้เห็นแจ้งใน   มัคคา-
มัคคญาณทัสสนวิสุทธิ  นี้  โดยกำจัดความหลงในมรรคนั้นว่า   นี้คือ
มรรคเป็นโลกิยะเป็นอันนำความกำหนดมรรคสัจ  ด้วยการรับรองมรรค
โดยชอบ.  ด้วยประการฉะนี้  จึงเป็นอันท่านทำความกำหนดสัจจะ ๔
ด้วยญาณเป็นโลกิยะ.
                           จบ  อรรถกถาอุทยัพพยญาณนิทเทส
ภังคานุปัสสนาญาณนิทเทส
                   [๑๑๒]   ปัญญาในการพิจารณาอารมณ์แล้วพิจารณาเห็นความ
แตกไป   เป็นวิปัสสนาญาณอย่างไร  ?
             จิตมีรูปเป็นอารมณ์     เกิดขึ้นแล้วย่อมแตกไป     พระโยคาวจร
พิจารณาอารมณ์นั้นแล้ว  ย่อมพิจารณาเห็นความแตกไปแห่งจิตนั้น   ย่อม
พิจารณาเห็นอย่างไร   ชื่อว่าพิจารณาเห็น   ย่อมพิจารณาเห็นโดยความ
เป็นของไม่เที่ยง  ไม่พิจารณาเห็นโดยความเป็นของเที่ยง  ย่อมพิจารณา
เห็นโดยความเป็นทุกข์  ไม่พิจารณาเห็นโดยความเป็นสุข  ย่อมพิจารณา
เห็นโดยความเป็นอนัตตา    ไม่พิจารณาเห็นโดยความเป็นอัตตา    ย่อม
เบื่อหน่าย   ไม่เพลิดเพลิน   ย่อมคลายกำหนัด  ไม่กำหนัด    ย่อมให้ดับ
ไม่ให้เกิด    ย่อมสละคืน  ไม่ถือมั่น   เมื่อพิจารณาเห็นโดยความเป็นของ
ไม่เที่ยง  ย่อมละนิจสัญญาได้  เมื่อพิจารณาเห็นโดยความเป็นทุกข์  ย่อม
ละสุขสัญญาได้  เมื่อพิจารณาโดยความเป็นอนัตตา ย่อมละอัตสัญญาได้
เมื่อเบื่อหน่าย   ย่อมละความเพลิดเพลิดได้   เมื่อคลายกำหนัด   ย่อมละ
ราคะได้  เมื่อให้ดับย่อมละสมุทัยได้   เมื่อสละคืน   ย่อมละความถือมั่น
ได้.
             [๑๑๓]  จิตมีเวทนาเป็นอารมณ์ ฯ ล ฯ จิตมีสัญญาเป็นอารมณ์
ฯ ล ฯ  จิตมีสังขารเป็นอารมณ์   ฯ ล ฯ   จิตมีวิญญาณเป็นอารมณ์   ฯ ล ฯ
จิตมีจักษุเป็นอารมณ์    ฯ ล ฯ   จิตมีชราและมรณะเป็นอารมณ์   เกิดขึ้น
แล้วย่อมแตกไป   พระโยคาวจรพิจารณาอารมณ์นั้นแล้ว   พิจารณาเห็น
ความแตกไปแห่งจิตนั้น   ย่อมพิจารณาเห็นอย่างไร  ชื่อว่าพิจารณาเห็น
ย่อมพิจารณาเห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง   เมื่อสละคืน   ย่อมละความ
ถือมั่นได้.
             [๑๑๔]  การก้าวไปสู่วัตถุแต่ปุริมวัตถุ    การหลีกไปด้วยปัญญา
อันรู้ชอบ.   การคำนึงถึงอันเป็นกำลัง   ธรรม ๒ ประการ    คือ   การ
พิจารณาหาทางและความเห็นแจ้ง  บัณฑิตกำหนดเอาด้วยสภาพเดียวกัน
โดยความเป็นไปตามอารมณ์      ความน้อมจิตไปในความดับ      ชื่อว่า