อามิสด้วยโลกามิส เพราะยังมีความอยาก. นั่นคืออะไร ? คือ สมถ- |
โคตรภูญาณ ๘ อย่าง. บทว่า วฏฺฏามิสํ ในที่นี้ ได้แก่ วัฏฏะเป็นไป |
ในภูมิ ๓ นั่นเอง. บทว่า โลกามิสํ ได้แก่ กามคุณ ๕. บทว่า |
กิเลสามิสํ ได้แก่ กิเลสทั้งหลายนั่นเอง. บทว่า นิรามสํ ได้แก่ |
วิปัสสนาโคตรภูญาณ ๑๐ อย่าง เพราะไม่มีความอยาก. จริงอยู่ พระ- |
อริยะทั้งหลายไม่ทำความอยากในโคตรภู. ในคัมภีร์อาจารย์ทั้งหลาย |
เขียนไว้ว่า สามิสญฺเจ นั่นไม่ดีเลย. |
| |
พึงทราบ ปณิหิตะ อัปปณิหิตะ, สัญญุตตะ วิสัญญุตตะ, |
วุฏฐิตะ อวุฏฺฐิตะ ดังต่อไปนี้. ชื่อว่า ปณิหิตะ คือ ความปรารถนา |
เพราะตั้งอยู่ในความใคร่. ชื่อว่า อัปปณิหิตะ เพราะไม่มีที่ตั้ง. ชื่อว่า |
สัญญุตตะ เพราะประกอบด้วยความอยาก. ชื่อว่า วิสัญญุตตะ |
เพราะไม่ประกอบด้วยความอยาก. |
| |
บทว่า วุฏฺิตํ ได้แก่ โคตรภูญาณอันเป็นวิปัสสนานั่นเอง. |
จริงอยู่ โคตรภูญาณนั้น ชื่อว่า วุฏิตะ เพราะตัดความอยาก. นอก |
นั้นเป็น อวุฏิตะ. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า วุฎิตะ เพราะออกไป |
ภายนอก. พึงทราบว่า แม้ผลโคตรภูอันเป็นสังขารนิมิตภายนอกก็ชื่อว่า |
วุฏิตะ เพราะมุ่งหน้าสู่นิพพานด้วยอัธยาศัยในนิพพาน. พึงทราบว่า |
แม้ในวาระแห่งการครอบงำ การออก การหลีกไปในภายหลัง ก็พึง |