เหล่ากิเลสที่เป็นไปตามมิจฉาสมาธินั้น จากขันธ์ทั้งหลาย และจาก |
สรรพนิมิตภายนอก สัมมาสมาธิย่อมเกิดขึ้น เพราะเป็นคุณชาติระงับ |
ปโยคะที่ออกนั้น การระงับปโยคะนั้นเป็นผลของมรรค. |
[๑๔๗] ในขณะแห่งสกทาคามิมรรค ญาณชื่อว่าสัมมาทิฏฐิ |
เพราะอรรถว่าเห็น ฯลฯ ชื่อว่าสัมมาสมาธิ เพราะอรรถว่าไม่ฟุ้งซ่าน |
ย่อมออกจากกามราคสังโยชน์ ปฏิฆสังโยชน์ กามราคานุสัย ปฏิฆา- |
นุสัย ส่วนหยาบ ๆ ย่อมออกจากเหล่ากิเลสที่เป็นไปตามมิจฉาสมาธินั้น |
จากขันธ์ทั้งหลายและจากาสรรพนิมิตภายนอก สัมมาสมาธิย่อมเกิดขึ้น |
เพราะเป็นคุณชาติระงับปโยคะที่ออกนั้น การระงับปโยคะนั้นเป็นผล |
ของมรรค. |
[๑๕๐] ในขณะแห่งอนาคามิมรรค ญาณชื่อว่าสัมมาทิฏฐิ |
เพราะอรรถว่าเห็น ฯลฯ ชื่อว่าสัมมาสมาธิ เพราะอรรถว่าไม่ฟุ้งซ่าน |
ย่อมออกจากกามราคะสังโยชน์ ปฏิฆสังโยชน์ กามราคานุสัย ส่วน |
ละเอียด ๆ ย่อมออกจากเหล่ากิเลสที่เป็นไปตามมิจฉาสมาธินั้น จาก |
ขันธ์ทั้งหลายและจากสรรพนิมิตภายนอก สัมมาสมาธิย่อมเกิดขึ้น |
เพราะเป็นคุณชาติระงับปโยคะที่ออกนั้น การระงับปโยคะที่ออกนั้น |
เป็นผลของมรรค. |
[๑๕๐] ในขณะแห่งอรหัตมรรค ญาณชื่อว่าสัมมาทิฏฐิ เพราะ |
อรรถว่าเห็น ฯลฯ ชื่อว่าสัมมาสมาธิ เพราะอรรถว่าไม่ฟุ้งซ่าน ย่อม |