บทว่า ตถฏฺเน สจฺจา - ชื่อว่าสัจจะ เพราะอรรถว่าจริงแท้ |
ความว่า ชื่อว่าอริยสัจ ๔ เพราะอรรถว่าไม่ผิด ในความเป็นสัจจะมี |
ทุกข์เป็นต้น. อนึ่ง ในบทนี้ อริยสัจ ๔ นั่นแหละ ชื่อว่าประชุมกัน |
ในครั้งนั้น เพราะอรรถว่าเป็นการรู้แจ้งแทงตลอด. และท่านกล่าวถึง |
นิพพานไว้ต่างหากว่า อมโตคธํ นิพฺพานํ - หยั่งลงสู่อมตะ คือ พระ- |
นิพพาน. ส่วนธรรมที่เหลือชื่อว่าประชุมกันในครั้งนั้น เพราะอรรถว่า |
ได้รับเฉพาะ. ในบทนี้ควรตัดสินว่า พระโยคาวจรย่อมพิจารณาสัจจะ ๔ |
อย่างแน่นอนในที่สุดแห่งมรรคผล เพราะคำว่า ตถฏฺเน สจฺจา |
ตทา สมุทณคตา - ชื่อว่าสัจจะประชุมกันในครั้งนั้น เพราะอรรถว่า |
เป็นสภาวะจริงแท้. และเพราะคำว่า กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺ |
ตายาติ ปชานาติ๑ - ย่อมรู้ว่ากิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว ไม่มีกิจอื่นที่ |
ควรทำเพื่ออย่างนี้อีก จึงเป็นอันกล่าวถึงการพิจารณาว่า ทุกข์อันเรา |
กำหนดรู้แล้ว สมุทัยอันเราละแล้ว นิโรธอันเราทำให้แจ้งแล้ว |
มรรคอันเราเจริญแล้ว. การพิจารณาอย่างนั้นสมควร. |
| |
อนึ่ง ในบทว่า สมุทโย นี้ พึงทราบถึงกิเลสที่ทำลายด้วยมรรค |
นั้นๆ นั่นแล. ด้วยการพิจารณาสมุทัยที่ท่านกล่าวไว้ในบทนี้ ในอรรถ- |
กถา ท่านจึงกล่าวว่า การพิจารณากิเลส ๒ อย่าง การพิจารณามรรค |
|