๗๙๒    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๗๙๓
ธรรมเหล่านั้นก็มีอุตุตั้งขึ้นเพราะกรรม    เป็นปัจจัยทั่วไปแก่สรรพสัตว์.
ก็อาจารย์พวกอื่นกล่าวว่า     รูปเป็นต้นอันเนื่องด้วยอนินทรีย์ไม่เข้า
ถึงวิปัสสนาได้.
            แต่คำนั้นผิด   เพราะในบาลีมีคำอาทิว่า
            สพฺเพ สงฺขารา  อนิจฺจาติ     ยทา ปญฺาย  ปสฺสติ
            อถ  นิพฺพินฺทติ  ทุกฺเข          เอส มคฺโค  วิสุทฺธิยา.
                      เมื่อใดบุคคลย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า   สังขาร
            ทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง,  เมื่อนั้นย่อมเบื่อหน่ายใน
            ทุกข์  นั่นเป็นทางแห่งวิสุทธิ - ความหมดจด.
            อนึ่ง     ในวิสุทธิมรรคท่านกล่าวว่า      บุคคลบางคนในโลกนี้
พิจารณาเห็นแจ้งสังขารภายในแต่ต้น.    แต่เพราะการออกไปจากมรรค
ย่อมมีไม่ได้ด้วยเพียงเห็นภายในบริสุทธิ์เท่านั้น    แม้ภายนอกก็พึงเห็น
ด้วย.     เพราะฉะนั้น   พระโยคาวจรย่อมเห็นแจ้ง     แม้ขันธ์ของผู้อื่น
แม้สังขารอันเป็นอนุปาทินนกะว่า  ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นอนัตตา.
ดังนั้นจึงควรปรารถนาแม้การกำหนดจักษุเป็นต้น ของผู้อื่น  แม้การ
๑. ขุ. ธ. ๒๕/๓๐.
กำหนดรูปอันเนื่องด้วยอนินทรีย์เป็นต้น.  ฉะนั้น   สังขารอันเป็นไปใน
ภูมิ ๓ ชื่อว่าไม่เข้าถึงวิปัสสนาย่อมไม่มี.
                      จบ  อรรถกถาโคจรนานัตตญาณนิทเทส
จริยานานัตตญาณนิทเทส
           [๑๖๕]   ปัญญาในการกำหนดจริยา    เป็นจริยานานัตตญาณ
อย่างไร  ?
           จริยาในบทว่า   จริยา   มี ๓   คือ วิญญาณจริยา    อัญญาณจริยา
ญาณจริยา.
           วิญญาณจริยาเป็นไฉน ?
           กิริยาคือความนึกเพื่อต้องการดูรูปทั้งหลายเป็นอัพยากฤต   เป็น
วิญญาณจริยา   จักขุวิญญาณอันเป็นแต่เพียงเห็นรูป   เป็นวิญญาณจริยา
เพราะได้เห็นรูปแล้ว  มโนธาตุอันเป็นวิบากที่ขึ้นสู่อารมณ์  เป็นวิญญาณ
จริยา   เพราะขึ้นสู่รูปแล้ว  มโนวิญญาณธาตุอันเป็นวิบาก  เป็นวิญญาณ
จริยา  กิริยาคือความนึกเพื่อต้องการฟังเสียงเป็นอัพยากฤต  เป็นวิญญาณ
จริยา   โสตวิญญาณอันเป็นแต่เพียงฟังเสียง    เป็นวิญญาณจริยา  เพราะ
ได้ฟังเสียงแล้ว  มโนธาตุอันเป็นวิบากที่ขึ้นสู่อารมณ์  เป็นวิญญาณจริยา
เพราะขึ้นสู่เสียงแล้ว   มโนวิญญาณธาตุอันเป็นวิบาก  เป็นวิญญาณจริยา