เป็นต้นด้วยสามารถการประกอบกัน เพราะเหตุนั้นจึงได้ ชื่อทั้งหลาย |
มีอาทิว่า สราคา-มีราคะ. ความประพฤติ ประกอบด้วยประการทั้งหลาย |
การเกิดร่วมกัน ดับร่วมกัน มีวัตถุร่วมกัน และอารมณ์ร่วมกัน |
เสมอด้วยราคะเป็นต้น เพราะเหตุนั้นจึงได้ ชื่อทั้งหลาย มีอาทิว่า |
ราคสมฺปยุตฺตา. |
อนึ่ง เพราะความประพฤตินั้นไม่ประกอบด้วยกรรมเป็นกุสล |
เป็นต้น ประกอบด้วยกรรมเป็นเสกสลเป็นต้น. ฉะนั้น พระสารีบุตร |
เถระ. เพื่อแสดง อญฺาณเจริยา จึงกล่าวบทมีอาทิว่า กุสเลหิ |
กมฺเมหิ - ด้วยกรรมเป็นกุสล. |
ในบทเหล่านั้น บทว่า อณฺาเต - ในอารมณ์ที่ไม่รู้ คือ ใน |
อารมณ์ที่ไม่รู้แห่งสภาวะที่เป็นจริง เพราะโมหะมีความไม่รู้เป็นลักษณะ. |
บทที่เหลือมีความได้กล่าวไว้แล้ว. |
| |
พึงทราบวินิจฉัยในญาณจริยาดังต่อไปนี้. เพราะกิริยาคืออาวัช- |
ชนะ - การนึกเป็นอัพยากฤต เป็นปัจจัยในลำดับแห่งวิวัฏฏนานุปัส- |
สนา - การพิจารณาเห็นความคลายออกเป็นต้นไม่มี ฉะนั้น เพื่อ |
ประโยชน์แก่วิวัฏฏนานุปัสนาเป็นต้นเหล่านั้น ท่านจึงไม่กล่าวถึง |
กิริยาคือการนี้เป็นอัพยาฤต กล่าววิวัฏฏนานุปัสนาเป็นต้นเท่านั้น. |
จริงอยู่ การนึกย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่อนุโลมญาณเท่านั้น จากนั้น |
ท่านกล่าวถึงวิวัฏฏนานุปัสนามรรคและผล. |