อนึ่ง ในบทว่า ผลสมาปตฺติ นี้ ญาณจริยาจะเกิดในลำดับ |
มรรคก็ตาม เกิดในลำดับผลก็ตาม. ท่านประสงค์เอาแม้ทั้งสองอย่าง. |
ในบทมีอาทิว่า นีราคา จรติ - ประพฤติไม่มีราคะ พึงทราบ |
ความไม่มีราคะเป็นต้น ด้วยการกำจัดราคะเป็นต้น. โดยอรรถเพียง |
ความไม่มีราคะเป็นต้นในวิญญาณจริยา. |
บทว่า าเต - ในอารมณ์ที่รู้ คือ ในอารมณ์ที่รู้ตามความ |
เป็นจริง. พระสารีบุตรเถระแสดงถึงความผสมกันและกันของจริยา ๓ |
ด้วยบทมีอาทิว่า อญฺา วิญฺณาณจริยา. เพราะวิญญาณจริยามี |
อเหตุกจิตเกิดขึ้นด้วยสามารถเพียงทำหน้าที่รู้. อัญญาณจริยาด้วย |
สามารถอกุศลจิตเกิดขึ้น ๑๒ ดวง มีหน้าที่ไม่รู้. ญาณจริยาด้วยสามารถ |
แห่งวิปัสสนา มรรค ผล ทำหน้าที่รู้โดยพิเศษ. |
พึงทราบว่า จริยาเหล่านี้ ผสมกันและกัน. มีสเหตุกกามาวจร |
เป็นกิริยากุศล เว้นวิปัสสนา มีสเหตุกกามาวจรเป็นวิบาก และมี |
รูปาวจรกุศล อรูปาวจรกุศล เป็นอัพยากฤต พ้นจากจริยา ๓. |
พึงทราบว่า ปัจจเวกขณญาณของพระเสกขะ อเสกขะ เป็น |
การพิจารณานิพพาน มรรค ผล เพราะท่านแสดงญาณจริยา อัน |
เป็นวิวัฏฏนานุปัสนา มีนิพพานเป็นอารมณ์ ท่านสงเคราะห์เข้าใน |
ญาณจริยา. เพราะจริยาแม้เหล่านั้นทำหน้าที่ของญาณโดยพิเศษด้วย |
ประการฉะนี้. |
จบ อรรถกถาจริยานานัตตญาณนิทเทส |