๘๓๖    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๘๓๗
            บทว่า ปริฬาหนานตฺตํ - ความต่างแห่งความเร่าร้อน  คือ  ความ
ต่างแห่งความเร่าร้อน  ย่อมเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า  ความเร่าร้อนในรูป  ความ
เร่าร้อนในเสียง   เพราะความต่างแห่งฉันทะ.
            บทว่า   ปริเยสนานตฺตํ -  ความต่างแห่งการแสวงหา  คือ ความ
ต่างแห่งการแสวงหารูปเป็นต้น     ย่อมเกิดขึ้นเพราะความต่างแห่งความ
เร่าร้อน.
            บทว่า   ลาภนานตฺตํ - ความต่างแห่งการได้  คือ  ความต่างแห่ง
การได้รูปเป็นต้น   ย่อมเกิดขึ้นเพราะความต่างแห่งการแสวงหา.
                        จบ    อรรถกถาธรรมนานัตตญาณนิทเทส
ญาณปัญจกนิทเทส
            [๑๘๕]  ปัญญาอันรู้ยิ่งเป็นญาตัฏฐญาณอย่างไร  ปัญญาเครื่อง
กำหนดรู้เป็นติรณัฏฐญาณ   ปัญญาเครื่องละเป็นปริจจาคัฏฐญาณ ปัญญา
เครื่องเจริญเป็นเอกรสัฏฐญาณ    ปัญญาเครื่องกระทำให้แจ้ง  เป็นผัสส-
นัฏฐญาณ.
            พระโยคาวจรรู้ยิ่งธรรมใด ๆ   แล้ว   เป็นอันรู้ธรรมนั้น ๆ   แล้ว
กำหนดรู้ธรรมใด  ๆ  แล้ว   เป็นอันพิจารณาธรรมนั้น ๆ  แล้ว   ละธรรม
ใด ๆ   ได้แล้ว    เป็นอันสละธรรมนั้น ๆ   แล้ว    เจริญธรรมใด ๆ  แล้ว
ธรรมนั้น ๆ  ย่อมมีกิจเป็นอันเดียวกัน  กระทำให้แจ้งธรรมใด ๆ แล้ว เป็น
อันถูกต้องตามธรรมนั้นๆ  แล้ว.
            ชื่อว่าญาณ    เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น    ชื่อว่าปัญญา    เพราะ
อรรถว่ารู้ชัด   เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า  ปัญญาอันรู้ยิ่งเป็นญาตัฏฐ-
ญาณ   ปัญญาเครื่องกำหนดรู้เป็นติรณัฏฐญาณ    ปัญญาเครื่องละเป็น
ปริจจาคัฎฐญาณ   ปัญญาเครื่องเจริญเป็นเอกรสัฏฐญาณ   ปัญญาเครื่อง
กระทำให้แจ้งเป็นผัสสนัฏฐญาณ.
๒๐ - ๒๔.  อรรถกถาญาณปัญจกนิทเทส
            [๑๘๕] พึงทราบวินิจฉัยในญาณปัญจกนิทเทสดังต่อไปนี้.  ท่าน
ทำปุจฉาวิสัชนารวมเป็นอันเดียว     เพราะมีความสัมพันธ์กันเป็นลำดับ
แห่งญาณ  ๕  เหล่านั้น.
            บทว่า   อภิญฺาตา   โหนฺติ - เป็นผู้รู้แจ้งธรรมแล้ว   คือ  เป็น
ผู้รู้ด้วยดี  ด้วยสามารถรู้ลักษณะแห่งสภาวธรรม.
            บทว่า  าตา  โหนฺติ -  เป็นอันรู้ธรรมแล้ว  คือ  ชื่อว่า  เป็น
อันรู้แล้ว  เพราะรู้ตามสภาพ   ด้วยสามารถแห่งญาตปริญญา.   เป็นอันรู้
ธรรมเหล่านั้นแล้วด้วยญาณใด.   ชื่อว่า   ญาณ    เพราะอรรถว่ารู้ญาณ
นั้น.   พึงทราบการเชื่อมว่า   ชื่อว่า   ปัญญา   เพราะอรรถว่ารู้ชัด.   โดย
นัยแม้นี้พึงประกอบแม้ญาณที่เหลือ.