๘๕๐    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๘๕๑
            [๒๐๓]  พระโยคาวจรพิจารณาเห็นสังขารนิมิตโดยความเป็น
ภัย  มิจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีสังขารนิมิต     เพิกเฉยความเป็นไป
แล้ว  คำนึงถึงนิพพานอันเป็นที่ดับ    ไม่มีสังขารนิมิตแล้วย่อมเข้าสมาบัติ
นี้ชื่อว่า  อนิมิตสมาบัติ  พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งโดยความเป็น
ภัย  มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีตัณหาเป็นที่ตั้ง     เพิกเฉยความเป็น
ไปแล้ว    คำนึงถึงนิพพานอันเป็นที่ดับ  ไม่มีตัณหาเป็นที่ตั้ง   แล้วย่อม
เข้าสมาบัติ  นี้ชื่อว่า  อัปปณิหิตสมบัติ  พิจารณาเห็นความถือมั่นว่าตน
โดยความเป็นภัย   มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างจาก   เพิกเฉยความ
เป็นไปตัว   คำนึงถึงนิพพานอันเป็นที่ดับ   ว่างจากตน    แล้วย่อมเข้า
สมาบัติ   นี้ชื่อว่า   สุญญตสมาบัติ.
           [๒๐๔]  พระโยคาวจรพิจารณาเห็นสังขารนิมิต      โดยความ
เป็นภัย     มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีสังขารนิมิต    ถูกต้องแล้ว ๆ
ย่อมเห็นความเสื่อมไป  เพิกเฉยความเป็นไปแล้ว   คำนึงถึงนิพพานอัน
เป็นที่ดับ  ไม่มีสังขารนิมิต  แล้วย่อมเข้าสมาบัติ  นี้ชื่อว่า  อนิมิตวิหาร-
สมาบัติ  พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งโดยความเป็นภัย   มีจิตน้อมไป
ในนิพพานอันไม่มีตัณหาเป็นที่ตั้ง    ถูกต้องแล้ว ๆ   ย่อมเห็นความเสื่อม
ไป    เพิกเฉยความเป็นไปแล้ว    คำนึงถึงนิพพานอันเป็นที่ดับ     ไม่มี
ตัณหาเป็นที่ตั้ง   แล้วย่อมเข้าสมาบัติ   นี้ชื่อว่า  อัปปณิหิตวิหารสมาบัติ
พิจารณาเห็นความถือมั่นว่าตนโดยความเป็นภัย  มีจิตน้อมไปในนิพพาน
อันว่างจากตน  ถูกต้องแล้ว ๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป  เพิกเฉยความเป็น
ไปแล้ว   คำนึงถึงนิพพานอันเป็นที่ดับ   ว่างจากตน  แล้วย่อมเข้าสมาบัติ
นี้ชื่อว่า  สุญญตวิหารสมาบัติ.
             [๒๐๕]  พระโยคาวจรพิจารณาเห็นรูปนิมิตโดยความเป็นภัย
มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีรูปนิมิต     ถูกต้องแล้วๆ   ย่อมเห็นความ
เสื่อมไป   วิหารธรรม   นี้ชื่อว่า     อนิมิตวิหาร   พิจารณาเห็นตัณหาอัน
เป็นที่ตั้งแห่งรูปโดยความเป็นภัย  มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง
ถูกต้องแล้ว ๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป  วิหารธรรม  นี้ชื่อว่า   อัปปณิหิต-
วิหาร    พิจารณาเห็นความถือมั่นว่ารูปโดยความเป็นภัย     มีจิตน้อมไป
ในนิพพานอันว่างเปล่า   ถูกต้องแล้ว  ๆ  ย่อมเห็นความเสื่อมไป   วิหาร-
ธรรมนี้   ชื่อว่า   สุญญตวิหาร.
            [๒๐๖]  พระโยคาวจรพิจารณาเห็นรูปนิมิตโดยความเป็นภัย
มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต   เพิกเฉยความเป็นไปแล้ว    คำนึง
ถึงนิพพานอันเป็นที่ดับ  ไม่มีนิมิต   แล้วย่อมเข้าสมาบัติ   นี้ชื่อว่า  อนิ-
มิตสมาบัติ    พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งรูปโดยความเป็นภัย
มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง   เพิกเฉยความเป็นไปแล้ว    คำนึง
ถึงนิพพานอันเป็นที่ดับ    ไม่ที่ตั้ง     แล้วย่อมเข้าสมาบัติ   นี้ชื่อว่า  อัปป-
ณิหิตสมาบัติ   พิจารณาเห็นความถือมั่นว่ารูปโดยความเป็นภัย    มีจิต
น้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า    เพิกเฉยความเป็นไปแล้ว     คำนึงถึง