บทว่า อุทฺธจฺเจ จ - ในเพราะอุทธัจจะ คือ ในเพราะอุท- |
ธัจจะอันเป็นจิตตุปบาทสหรคตด้วยอุทธัจจะ. อนึ่งบทว่า อุทฺธจฺจํ ได้แก่ |
ความฟุ้งซ่าน. อุทธัจจะนั้นมีความไม่สงบเป็นลักษณะ. |
บทว่า อุทฺธจฺจสหคตกิเลเส จ - ในเพราะกิเลสสหรคต ด้วย |
อุทธัจจะ ได้แก่ ในเพราะกิเลส คือ โมหะ อหิริกะ อโนตตัปปะ |
อันสัมปยุตด้วยอุทธัจจะ ถึงความเป็นกิเลสเกิดขึ้นร่วมกัน สหรคตด้วย |
อุทธัจจะ. บทว่า ขนฺเธ จ ในเพราะขันธ์ คือ ในเพราะขันธ์ ๔ |
อันสัมปยุตด้วยอุทธัจจะ. |
บทว่า น กมฺปติ น จลติ น เวธติ - ไม่หวั่นไหว ไม่ |
กวัดแกว่ง ไม่คลอนแคลน เป็นไวพจน์ของกันและกัน. พึงประกอบ |
ว่า ไม่หวั่นไหว ในเพราะอุทธัจจะ. ไม่กวัดแกว่ง ในเพราะกิเลส |
สหรคตด้วยอุทธัจจะ. ไม่คลอนแคลน ในเพราะขันธ์หรคตด้วยอุท- |
ธัจจะ. พึงทราบวิปัสสนาพละว่า เพราะท่านกล่าวอนุปัสนา ๗ วิปัสส- |
นาพละจึงเป็นอันบริบูรณ์ด้วยอำนาจแห่งอนุปัสนานั้นนั่นเอง. |
บทว่า อวิชฺชาย จ - ในเพราะอวิชชา ได้แก่ ในเพราะ |
อวิชชาในจิตตุปบาทอันเป็นอกุศล ๑๒ อย่าง. บทว่า อวิชฺชาสหคต- |
กิเลเส จ - ในเพราะกิเลสสหรคตด้วยอวิชชา ได้แก่ กิเลส คือ |
โลภะ โทสะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ |
อันสัมปยุตด้วยอวิชชาตามที่ประกอบไว้. |