๘๙๒    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๘๙๓
๗    วัน.   พระศาสดาทรงบัญญัติสิกขาบท    ในเพราะเรื่องที่ละเมิด.   หรือ
ทรงแสดงธรรมในเพราะเหตุเกิดเรื่องเห็นปานนั้น.   เราจักออก   โดยที่
ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งยังไม่มาเรียกเรา.   ภิกษุนั่งทำอย่างนี้ย่อมออกในสมัย
นั้นนั่นแหละ.   อนึ่ง   ภิกษุใดไม่ทำอย่างนั้น.   ทั้งพระศาสดา  เมื่อสงฆ์
ประชุมกัน   ไม่ทรงเห็นภิกษุนั้นตรัสถามว่า    ภิกษุรูปนั้นไปไหน   เมื่อ
กราบทูลว่า   เข้านิโรธ   จึงทรงส่งภิกษุรูปหนึ่งไปว่าเธอจงไปเรียกภิกษุ
นั้นตามคำของเรา.   ครั้นเพียงภิกษุนั้นยืนอยู่ในที่ใกล้พอได้ยินกล่าวว่า
พระศาสดาตรัสเรียกหาท่านดังนี้เท่านั้น       ภิกษุนั้นก็เป็นอันออกจาก
นิโรธ.   เพราะว่าการตรัสเรียกหาของพระศาสดาถือเป็นเรื่องหนักอย่าง
นี้.     ฉะนั้นพึงเข้านิโรธโดยอาการที่ภิกษุนั้นนึกถึง   แล้วออกก่อนนั่น
เทียว.
           บทว่า   อทฺธานปริจฺเฉโท  - กำหนดกาล   คือ  กำหนดกาลของ
ชีวิต.   จริงอยู่   ภิกษุนี้ควรเป็นผู้ฉลาดในการกำหนดกาล.  ควรนึกว่า
อายุสังขารของตนจักเป็นไปได้ตลอด  ๗  วัน.   หรือจักเป็นไปไม่ได้แล้ว
เข้านิโรธ.   เพราะว่าเมื่ออายุสังขารดับเสียในระหว่าง  ๗  วัน.    ภิกษุไม่
ได้นึกถึงเข้านิโรธ.   นิโรธสมาบัติของภิกษุนั้นไม่สามารถห้ามความตาย
ได้.    ภิกษุย่อมออกจากสมาบัติในระหว่างได้   เพราะในภายในนิโรธยัง
ไม่มีความตาย.   ฉะนั้นควรนึกถึงกาลนั้นแล้วจึงเข้านิโรธ.  แม้ไม่นึกถึง
กาลที่เหลือก็ควร.      แต่ควรนึกถึงกาลนี้ทีเดียว.    ท่านอธิบายไว้ดังนี้.
ภิกษุนั้นเข้าอากิญจัญญายตนะอย่างนี้แล้ว    ครั้นออกแล้วทำบุพกิจนี้
ย่อมเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะได้    ครั้นล่วงเลยวารจิตหนึ่ง   หรือ
สองแล้วเป็นอจิตตกะ   ย่อมถูกต้องนิโรธได้.     ถามว่า   ก็เพราะเหตุไร
จิตเหนือ    คือเกินจิตสองดวงจึงเป็นไปไม่ได้เล่า.   ตอบว่า  เพราะเป็น
ปโยคะแห่งนิโรธ.    จริงอยู่   การทำสมถะและวิปัสสนาทั้งสองของภิกษุ
นั้นให้เป็นยุคนัทธะคือธรรมที่เทียมคู่นี้   แล้วขึ้นสู่สมาบัติ ๘  เป็นความ
ขวนขวายของนิโรธตามลำดับ.      มิใช่เพราะเนวสัญญานาสัญญายตน-
สมาบัติ  เพราะเหตุนั้นจิตทั้งหลาย  จึงไม่เป็นไปเหนือจิตสองดวงเพราะ
เป็นปโยคะแห่งนิโรธ.
           บทว่า  กถํ  - €านํ - ตั้งอยู่อย่างไร  คือ  ตั้งอยู่ด้วยสามารถกำหนด
กาลแห่งสมาบัตินั้นที่เข้าถึงพร้อมแล้วอย่างนี้   และด้วยไม่มีอายุขัย  การ
รอท่าของสงฆ์และการตรัสเรียกหาของพระศาสดาในระหว่าง.
          บทว่า   กถํ  วุฏฺ€านํ  -  ออกอย่างไร  ได้แก่  ออก ๒ อย่างนี้
คือ   ด้วยอนาคามิผลสมาบัติ   ๑  ด้วยอรหัตผลสมาบัติของพระอรหันต์ ๑.
          บทว่า  วุฏฺ€ิตสฺส   กินฺนินฺนํ    จิตฺตํ     โหติ  -  จิตของผู้ออกแล้ว
น้อมไปสู่อะไร ความว่า   น้อมไปสู่นิพพาน.  สมดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสไว้ว่า
๑. หมายความว่า ในขณะที่จะเข้านิโรธสมาบัติ จตุตถอรูปสมาบัติเกิดขึ้น ๒ ครั้ง
แล้วก็ถึงนิโรธ.