๘๙๔    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๘๙๕
                 ดูก่อน  อาวุโสวิสาขะ   จิตของภิกษุผู้ออกจาก
            สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ   น้อมไปสู่วิเวก    โอน
            ไปสู่วิเวก   โน้นไปสู่วิเวก.
            บทว่า  มตสฺส  จ  สมาปนฺนสฺส  จ   โก   วิเสโส  -  ผู้ตาย
แล้วและผู้เข้านิโรธต่างกันอย่างไร ท่านกล่าวความนี้ไว้แล้วในพระสูตร.
สมดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
                  ดูก่อนอาวุโส    กายสังขารของผู้ตายแล้ว  ถึง
            แต่กรรมแล้ว   ดับ   สงบ.   วจีสังขาร   จิตตสังขาร
            ดับ  สงบ.  อายุสิ้นไป.   ไออุ่นสงบไป.   อินทรีย์
            ทำลายไป.    แม้กายสังขารของภิกษุผู้เข้าสัญญา-
            เวทยิตนิโรธ   ก็ดับ  สงบ.   วจีสังขาร   จิตตสังขาร
            ก็ดับ  สงบ.   อายุยังไม่สิ้นไป.   ไออุ่นยังไม่สงบ.
            อินทรีย์ยังไม่ทำลาย.-
           ในคำถามมีอาทิว่า   นิโรธสมาปตฺติ    กึ   สงฺขตา  อสงฺขตา-
นิโรธสมาบัติเป็นสังขตะหรืออสังขตะ  ?   มีอธิบายดังต่อไปนี้    ไม่ควร
กล่าวว่า     เป็นสังขตะบ้าง  อสังขตะบ้าง    โลกิยะบ้าง    โลกุตระบ้าง.
เพราะเหตุไร ?   เพราะไม่มีโดยสภาพ.    เพราะภิกษุ   ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึง
๑. ม. ม. ๑๒/๕๑๐. ๒. ม. มู. ๑๒/๕๐๒.
พร้อมแล้วด้วยอำนาจแห่งการเข้านิโรธ.   ฉะนั้นควรกล่าวว่า  เป็นนิป-
ผันนะ   คือ   สำเร็จแล้ว   ไม่ควรกล่าวว่า  เป็นอนิปผันนะ  คือ  ยังไม่
สำเร็จ.
                  สมาบัติอันสงบแล้ว  อันพระอริยะเสพแล้ว
         มิได้ชื่อว่านิพพาน   ในทิฏฐธรรมด้วยประการฉะนี้.
                   จบ  อรรถกถานิโรธสมาปัตติญาณนิทเทส
ปรินิพพานญาณนิทเทส
           [๒๒๖]  ปัญญาในความสิ้นไปแห่งความเป็นไปแห่งกิเลส   และ
ขันธ์ของบุคคลผู้รู้สึกตัว  เป็นปรินิพพานญาณอย่างไร ?
             สัมปชานบุคคลในศาสนานี้   ย่อมยังความเป็นไปแห่งกามฉันทะ
ให้สิ้นไป   ด้วยเนกขัมมะ   ฯลฯ   แห่งความพยาบาท   ให้สิ้นไป   ด้วย
ความไม่พยาบาท ฯลฯ  แห่งถีนมิทธะให้สิ้นไป  ด้วยอาโลกสัญญา  ฯลฯ
แห่งอุทธัจจะให้สิ้นไป   ด้วยความไม่ฟุ้งซ่าน  ฯลฯ  แห่งวิจิกิจฉาให้สิ้นไป
ด้วยการกำหนดธรรม   ฯลฯ   แห่งอวิชชาให้สิ้นไป    ด้วยญาณ   ฯลฯ
แห่งความไม่ยินดี   ด้วยความปราโมทย์   ยังความเป็นไปแห่งนิวรณ์ให้สิ้น
ไป  ด้วยปฐมฌาน ฯลฯ  ยังความเป็นไปแห่งกิเลสทั้งปวงให้ในรูป   ด้วย
อรหัตมรรค.