๙๐๒    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๙๐๓
แผนกหนึ่ง ๆ  ด้วยหมวด  ๘   ที่เหลือเว้นหมวดอายตนะ     ธาตุ   ด้วย
สามารถธรรมหมวดหนึ่ง ๆ.    ก็เพราะโลกุตรธรรมมิใช่เป็นธรรมที่ควร
ตัด   ด้วยการตัดขาดเหตุ.   ฉะนั้น   โลกุตรธรรมแม้ท่านสงเคราะห์เข้า
ด้วยศัพท์ว่า  สพฺพธมฺมา ก็ไม่พึงถือเอาในที่นี้ เพราะมีคำว่า สมุจเฉทะ
ควรถือเอาเตภูมิธรรมอันควรตัดด้วยการตัดเหตุ.
         บทว่า  สมฺมา   สมุจฺฉินฺทติ - ตัดขาดโดยชอบ  ความว่า  เมื่อ
ดับปริยุฏฐานกิเลสและอนุสัยกิเลส     ด้วยอำนาจแห่งวิกขัมภนปหานะ
ตทังคปหานะ   และสมุจเฉทปหานะตามควร   ชื่อว่า   ตัดขาดโดยชอบ.
ท่านแสดงการตัดขาดโดยชอบ    ด้วยเทศนาเป็นบุคลาธิฏฐานอย่างนี้.
          บทว่า    นิโรเธติ - ให้ดับ    คือ   ให้ดับด้วยอนุปาทนิโรธ - ดับ
โดยไม่มีเกิดขึ้น.   ด้วยบทนี้ท่านกล่าวถึงอรรถแห่งสมุจเฉท.
           บทว่า  น  อุปฏฺ€าติ - ย่อมไม่ปรากฏ   ความว่า   เมื่อดับอย่างนี้
แล้ว   ธรรมนั้น  ๆ  ก็ไม่ปรากฏขึ้นอีก    คือ  ไม่เกิดขึ้น.    ด้วยบทนี้
ท่านกล่าวถึงอรรถแห่งนิโรธ.  ท่านแสดงถึงความไม่ปรากฏ  ด้วยสามารถ
แห่งธรรมอันไม่ปรากฏ.    บทว่า   สมํ - ความสงบ   คือ   ชื่อว่า  สงบ
เพราะกามฉันทะเป็นต้นสงบ.    ธรรม ๓๗  คือ  ธรรม  ๗   มีเนกขัมมะ
เป็นต้นเหล่านั้น  รูปฌานอรูปฌาน  ๘,  มหาวิปัสสนา  ๑๘,  อริยมรรค  ๔
           ท่านกล่าวธรรมเป็นประธาน  คือ  สีสะ  ๑๓ ประการ    ด้วย
สามารถแห่งการสงเคราะห์ธรรมทั้งหมดที่เป็นสีสะ   แต่ในที่นี้ธรรมเป็น
ประธาน ๘    มีศรัทธาเป็นต้นย่อมควร.    เพราะธรรมเป็นประธาน ๕
มีตัณหาเป็นต้นมิได้มีแก่พระอรหันต์.
            บทว่า  ปลิโพธสีสํ  -  มีความกังวลเป็นประธาน  คือ  มีความ
ห่วงใยปลิโพธ.  อธิบายว่า  เป็นเครื่องกั้นทางไปนิพพาน. บทว่า  สีสํ-
เป็นประธาน  คือธรรมอันยิ่ง.   ปลิโพธนั่นแหละเป็นประธาน  หรือเป็น
ประธานในปลิโพธทั้งปวง    มีการประกอบด้วยธรรมนั้นเป็นต้น   เพราะ
เหตุนั้น   จึงชื่อว่า   ปลิโพธสีสํ.    ในบทที่เหลือมีนัยนี้แล.   แต่โดย
ความต่างกันในบทว่า   พนฺธนํ - ความผูกพัน   คือ  ผูกพันในสงสาร
ด้วยสามารถการเย่อหยิ่ง.
            บทว่า  ปรามาโส  คือ  ความยึดมั่น.
            บทว่า   วิกฺเขโป   คือ   ความฟุ้งซ่าน.
            บทว่า   กิเลโส   คือ   ความเศร้าหมอง.
            บทว่า  อธิโมกฺโข   คือ   น้อมใจเชื่อ.
            บทว่า   ปคฺคโห   ความประคอง   คือ   ความอุตสาหะ.
            บทว่า   อุปฏฺ€านํ - เข้าไปตั้งไว้  คือ   การทำซ้ำ ๆ.
            บทว่า  อวิกฺเขโป  คือ  ความไม่ฟุ้งซ่าน.
            บทว่า   ทสฺสนํ - ความเห็น   คือ   แทงตลอดตามความเป็นจริง.
            บทว่า   ปวตฺตํ - ความเป็นไป   คือ   ความเป็นไปด้วยอุปาทิน-
นกขันธ์.