๓๖๓    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๓๖๕
ตรัสเรื่องนี้   มีคำเริ่มต้นว่า   อหญฺจ   ทฬฺหธมฺมสฺส    ดังนี้.    ส่วนวิธี
ที่พระเจ้าอุเทนทรงได้ช้างพังต้นตัวนั้นก็ดี  ราชวงศ์ของพระเจ้าอุเทนก็ดี
จักมีแจ้งในมาตังคชาดก.
         ก็วันหนึ่ง        ช้างพังต้นเดินออกจากพระนครไป    ได้เห็น
พระผู้มีพระภาคเจ้า  มีหมู่พระอริยห้อมล้อม   เสด็จเข้าไปในพระนคร
ด้วยพุทธสิริ  หาที่เปรียบมิได้เพื่อบิณฑบาตแต่เช้า  จึงหมอบลงแทบบาท
มูลของ  พระพุทธเจ้า  ทูลขอ พระผู้มีพระภาคเจ้า  โอดครวญไปพลาง
ว่า   ข้าแต่พระสรรเพชญผู้ทรงภาคยธรรม    ผู้ทรงช่วยเหลือสัตวโลกทั้ง
มวล.    พระเจ้าอุเทนทรงโปรดปรานหม่อมฉัน   ในเวลาที่หม่อมฉันยัง
สามารถช่วยราชการได้  ในเวลายังรุ่นโดยทรงเห็นว่า  ตนเองได้ชีวิตได้
ราชสมบัติและพระราชเทวีมา  โดยอาศัยหม่อมฉัน   จึงได้พระราชทาน
การเลี้ยงดูมากมาย       ทรงตกแต่งที่อยู่ประดับประดาด้วยเครื่องอลังการ
ทั้งหลาย   รับสั่งให้ทำการประพรมด้วยของหอม   ทรงให้ติดเพดานประ-
ดับดาวทองไว้เบื้องบนให้กั้นม่านที่วิจิตรไว้โดยรอบ   ให้ตามประทีปด้วย
น้ำมันเจือด้วยของหอม   ให้ตั้งกระถางอบควันไว้   ไห้วางกระถางทองไว้
ในที่สำหรับเทคูถแล้วให้หม่อมฉันยืนอยู่บนแท่นที่มีเครื่องลาดอันวิจิตร
และได้พระราชทาน   เครื่องกินที่มีรสเลิศนานาชนิดแก่หม่อมฉัน.    แต่
บัดนี้เวลาหม่อมฉันไม่สามารถช่วยราชการได้ในเวลาแก่    พระองค์ทรง
งดการบำรุงนั้นทุกอย่าง.     หม่อมฉันไม่มีที่พึ่ง   เป็นผู้ไม่มีปัจจัยเครื่อง
หน้า ๓๖๔