๓๖๔    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๓๖๖
อาศัย   หากินต้นลำเจียกในป่าเลี้ยงชีพ   หม่อมฉันไม่มีที่พึ่งอย่างอื่น  ข้า
แต่ พระผู้มีพระภาคเจ้า   ขอพระองค์จงทรงให้พระเจ้าอุเทนทรงรำลึก
ถึงคุณความดีของหม่อมฉัน     แล้วทรงกระทำการบำรุงอย่างเดิม  กลับ
เป็นปกติแก่หม่อมฉัน.     พระศาสดาตรัสว่า   เจ้าจงไปเถิด    เราตถาคต
จักทูลพระราชาแล้วแต่งตั้งยศให้กลับเป็นปกติ      แล้วได้เสด็จไปประตู
พระราชนิเวศน์.  พระราชได้ให้พระตถาคตเจ้าเสด็จเข้าไปในพระราช-
นิเวศน์ของพระองค์แล้ว   ทรงถวายมหาทาน  แด่พระสงฆ์มี พระพุทธ-
เจ้า  เป็นประมุข.  พระศาสดา  เมื่อทรงทำอนุโมทนาในเวลาเสร็จภัตกิจ
แล้วได้ตรัสถามว่า  ดูก่อนบพิตรมหาราช  พังต้นภัททวดีอยู่ที่ไหน ? พระ
ราชาทูลว่า  ไม่ทราบพระพุทธเจ้าข้า.   พระศาสดาตรัสถึงคุณความดีของ
พังภัตทวดีว่า  ดูก่อนบพิตรมหาราช   ขึ้นชื่อว่าการพระราชทานยศแก่ผู้
มีอุปการคุณแล้วทรงทอดทิ้งในเวลาแก่     ย่อมไม่ควร     ควรจะเป็นผู้มี
กตัญญูกตเวที.  พังต้นภัตทวดี  บัดนี้แก่ทรุดโทรมมาก   เป็นสัตว์อนาถา
หากินต้นลำเจียกในป่าประทังชีวิตอยู่      การทำให้เขาไร้ที่พึ่งในเวลาแก่
ไม่เหมาะสมแก่พระองค์แล้วตรัสว่า   ขอพระองค์จงทรงทำการบำรุงอย่าง
เดิมทุกอย่างให้เป็นปกติ   ดังนี้แล้วจึงเสด็จหลีกไป.      พระราชาได้ทรง
กระทำอย่างนั้น.     เสียงเล่าลือได้กระจายไปทั่วพระนครว่า  ได้ทราบว่า
พระตถาคตเจ้าตรัส ถึงคุณความดีของพังต้นภัททวดีแล้วทรงให้พระราชา
แต่งตั้งยศเก่าให้กลับคืนตามปกติ. แม้ในหมู่พระสงฆ์ประวัตินั้นก็ปรากฏ
ขึ้น.   จึงภิกษุทั้งหลายพากันตั้งเรื่องสนทนากันในธรรมสภาว่า    ท่านผู้
หน้า ๓๖๕